โดเมนเนม คือ ที่อยู่ของคุณบนโลกออนไลน์ เป็นบ้านของแบรนด์ ร้านค้าออนไลน์ และจุดที่คนจะเจอคุณได้ แล้วจริงๆ ควรจ่ายเท่าไหร่กับพื้นที่ดิจิทัลนี้?
บางโดเมนมีราคาหลักพันดอลลาร์ (ประมาณหลักหมื่นบาทขึ้นไป) ขณะที่บางโดเมนจดได้ฟรี ด้วยช่วงราคาที่หลากหลาย การเลือกโดเมนอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด
ไกด์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับราคาที่ควรรู้เมื่อต้องจดโดเมนเนม
ค่าใช้จ่ายโดเมนเนม อยู่ที่เท่าไหร่?
โดยเฉลี่ยแล้ว การจดทะเบียนและเป็นเจ้าของโดเมนมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 350 - 700 บาทต่อปี แต่ราคานี้เป็นแค่ค่าเฉลี่ย และอาจต้องจ่ายเพิ่มเมื่อต่ออายุโดเมนในปีถัดไป
เหมือนกับราคาที่ดินที่แตกต่างกันไปตามทำเล ความนิยมของชื่อโดเมนอาจทำให้ราคาสูงขึ้นจากหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นหรือมากกว่านั้น
เมื่อคุณจดทะเบียนโดเมน คุณกำลังจ่ายค่าบริการและเทคโนโลยีจากผู้ให้บริการจดโดเมน (Domain Registrar) ซึ่งทำให้โดเมนของคุณออนไลน์และเชื่อมต่อกับ IP Address ที่ถูกต้อง
แล้วโดเมนฟรีล่ะ?
บางแพลตฟอร์ม เช่น Shopify มี ซับโดเมนฟรี ให้ใช้ ซึ่งเป็นที่อยู่เว็บที่อยู่ภายในโดเมนหลัก ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเปิดร้านค้าบน Shopify คุณจะได้รับซับโดเมน “www.[ชื่อร้าน].myshopify.com”
ซับโดเมนฟรีช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องมีงบเยอะ เหมาะสำหรับช่วงที่กำลังเริ่มต้น ทดสอบไอเดีย หรืออยู่ในช่วงแรกของการทำธุรกิจ
แต่เมื่อเว็บไซต์ของคุณเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว คุณอาจต้องการ โดเมนที่สะท้อนชื่อธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณโดยตรง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้ค้า Shopify ส่วนใหญ่มักเลือกจดโดเมนของตัวเอง
ควรจ่ายค่าโดเมนเท่าไหร่?
คำตอบขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจหรือสร้างเว็บส่วนตัว ซับโดเมนฟรีก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการโดเมนแบบเต็มที่ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดเมนทั่วไปที่มีราคาต่ำกว่า 1,750 บาท จะเหมาะกับเจ้าของแบรนด์และเว็บไซต์ส่วนใหญ่
หากเว็บไซต์ของคุณได้รับทราฟฟิกส่วนใหญ่จากการค้นหาบน Google หรือมีคนพิมพ์ชื่อโดเมนโดยตรง คุณอาจต้องลงทุนกับชื่อโดเมนที่จดจำง่ายและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่าง: หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการซ่อมท่อประปา การมีโดเมนอย่าง "www.plumbingadvice.com" จะช่วยให้ติดอันดับในคำค้นหา เช่น "วิธีแก้ท่อตัน" ได้ง่ายขึ้น
สำหรับธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง การลงทุนซื้อชื่อโดเมนที่ตรงกับชื่อแบรนด์อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้ลูกค้าจดจำง่ายและสร้างความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ American Blue Jeans อาจเลือกซื้อโดเมน "www.americanbluejeans.com" ไม่ว่าราคาจะเท่าไหร่ก็ตาม เพราะการมีชื่อโดเมนที่ตรงกับแบรนด์ช่วยให้ผู้คนจดจำได้ง่ายขึ้น และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
ราคาชื่อโดเมน จากผู้ให้บริการยอดนิยม
ในปี 2025 นี่คือตัวอย่างราคาจดทะเบียนโดเมนจากผู้ให้บริการโดเมนชั้นนำ
ตัวอย่างราคานี้อ้างอิงจากชื่อโดเมน "bakehacks.com" ซึ่งเป็นโดเมน .com ที่เหมาะกับธุรกิจเกี่ยวกับการทำขนม
หมายเหตุ: ราคาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชื่อโดเมนที่เลือก, ส่วนขยายโดเมน (TLD) เช่น(.com, .ca, .co.uk) และความนิยมของโดเมนนั้นๆ
GoDaddy
GoDaddy เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการจดโดเมนรายใหญ่ที่สุดในโลก หากจดทะเบียน "bakehacks.com" บน GoDaddy จะมีราคา ประมาณ 770 บาทต่อปี พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับปีแรก
Namecheap
Namecheap เป็นที่รู้จักในเรื่องราคาที่ย่อมเยา การจดทะเบียน "bakehacks.com" บน Namecheap จะมีราคา ประมาณ 490 บาทต่อปี พร้อมส่วนลดเล็กน้อยในปีแรก
Bluehost
Bluehost เป็นผู้ให้บริการโฮสติ้งที่มีบริการจดโดเมนด้วย หากจดทะเบียน "bakehacks.com" กับ Bluehost ราคาจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 460 บาทต่อปี
Shopify
Shopify มีบริการจดโดเมนโดยตรง หากจดทะเบียน "bakehacks.com" ผ่าน Shopify จะมีราคา ประมาณ 525 บาทต่อปี
อย่าลืมว่าราคาเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น และราคาของโดเมนที่คุณต้องการอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ ความยาวของชื่อโดเมน, ส่วนขยาย (TLD), ความนิยม และบริการเสริมต่างๆ เช่น การปกป้องข้อมูลส่วนตัวของโดเมน (Domain Privacy Protection)
แหล่งซื้อโดเมน
โดยทั่วไป การซื้อชื่อโดเมนสามารถทำได้จาก 3 แหล่งหลัก ได้แก่ เว็บไซต์ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมน, เว็บไซต์โฮสติ้งที่มีบริการเสริมเกี่ยวกับโดเมน และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมน
ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนคือบริษัทที่ขายโดเมนโดยตรง มักมีราคาที่คุ้มค่า พร้อมส่วนลดสำหรับการจดโดเมนแบบหลายปี และมีเครื่องมือหรือฟีเจอร์เสริม เช่น การปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Protection), การเข้ารหัส SSL และบริการช่วยเหลือด้านการซื้อโดเมน
ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนยอดนิยม
- GoDaddy
- Namecheap
- Porkbun
- Domain.com
- Dynadot
- Google Domains
- Name.com
- NameSilo
- Register.com
GoDaddy เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยขึ้นชื่อเรื่องส่วนลดโดเมนปีแรกที่ค่อนข้างถูก ส่วน Porkbun ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะมีดีลโดเมนราคาประหยัดและเครื่องมือช่วยจัดการโดเมนเพิ่มเติม Namecheap ก็ตามชื่อ มักจะมีโปรโมชั่นโดเมนราคาดีสำหรับปีแรกของการเป็นเจ้าของ
ข้อดี
- ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนมักมีดีลราคาพิเศษสำหรับการซื้อโดเมนโดยเฉพาะ
- บางผู้ให้บริการมีบริการนายหน้าช่วยเจรจาซื้อโดเมนที่มีเจ้าของ
ข้อเสีย
- เครื่องมือเสริม เช่น บริการโฮสติ้งและเครื่องมือออกแบบ อาจไม่ได้มาตรฐานระดับชั้นนำ
- ต้องเชื่อมต่อโดเมนกับผู้ให้บริการโฮสติ้งและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเอง
- ส่วนลดโดเมนปีแรกอาจทำให้ราคาต่ออายุในปีถัดไปสูงกว่าที่คาดไว้
เว็บไซต์โฮสติ้ง
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งมีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณบนเซิร์ฟเวอร์ โดยหลายแห่งมักมีบริการจดทะเบียนโดเมนควบคู่ไปด้วย ทำให้การตั้งค่าเว็บไซต์ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งยอดนิยม
- Bluehost
- Hostinger
- IONOS
- SiteGround
- A2 Hosting
- HostGator
- DreamHost
- InMotion Hosting
ทุกแพ็กเกจของ Shopify มาพร้อมกับบริการโฮสติ้งที่ปลอดภัย
ข้อดี
- การใช้บริการโฮสติ้งพร้อมจดทะเบียนโดเมนอาจช่วยลดต้นทุนค่าโฮสติ้งได้
- บางผู้ให้บริการเสนอส่วนลดหรือให้จดโดเมนฟรีในปีแรก
ข้อเสีย
- อาจมีข้อจำกัดในการควบคุมโดเมนและการตั้งค่าการใช้งานบางอย่าง
แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์
แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้ครบวงจรโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ทั้งออกแบบเว็บไซต์ โฮสต์เว็บไซต์ และซื้อหรือเชื่อมต่อชื่อโดเมนได้ในที่เดียว
ตัวอย่าง แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ยอดนิยม
- Shopify
- Wix
- WordPress
- Squarespace
- Square Online
สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ Shopify มีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นและขยายธุรกิจ ทุกแพ็กเกจของ Shopify รวมเครื่องมือสร้างเว็บไซต์, เว็บโฮสติ้ง และซับโดเมนฟรี
ข้อดี
- งานส่วนใหญ่ในแต่ละวันดำเนินผ่านแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ดังนั้นการจัดการโฮสติ้งและโดเมนจากที่เดียวกันจึงสะดวกกว่า
- แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ชั้นนำมักให้บริการซับโดเมนฟรี
ข้อเสีย
- ราคาจดทะเบียนโดเมนบนแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อาจสูงกว่าการซื้อผ่านผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนโดยตรง
ราคาชื่อโดเมนคำนวณยังไง?
มาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อราคาของชื่อโดเมน
นามสกุลโดเมน (TLD)
ตัวอักษรที่อยู่หลังจุดสุดท้ายในชื่อโดเมน หรือที่เรียกว่า Top-Level Domain (TLD) มีผลต่อราคา โดยทั่วไปโดเมนที่ลงท้ายด้วย .com หรือ .org มักมีราคาสูงกว่าโดเมนเฉพาะกลุ่ม เช่น .tv หรือ .io
แม้ว่า .com จะเป็นตัวเลือกหลักของธุรกิจส่วนใหญ่ แต่ TLD แบบรหัสประเทศ เช่น .co.th, .uk, หรือ .sg สามารถช่วยระบุความเป็นท้องถิ่นของเว็บไซต์ได้ สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ดำเนินธุรกิจระดับสากล มักเลือกซื้อ TLD หลายแบบเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในแต่ละภูมิภาค
ความยาวและความนิยมของชื่อโดเมน
ชื่อโดเมนที่สั้นและจดจำง่ายมักมีราคาสูงกว่า ตัวอย่างเช่น cars.com จะมีราคาสูงกว่าชื่อโดเมนที่ยาวกว่าอย่าง bestusedcars.com ส่วน bestusedtoyotas.com อาจมีราคาต่ำที่สุด
ความพร้อมใช้งาน
หากชื่อโดเมนที่คุณต้องการถูกจดทะเบียนไปแล้ว อาจยังสามารถซื้อได้จากเจ้าของเดิม แต่ราคามักจะสูงขึ้น โดยเฉพาะหากเป็นชื่อโดเมนที่มีความต้องการสูงและมีผู้สนใจซื้อหลายราย ซึ่งอาจถูกนำไปขายต่อผ่านระบบการประมูล
วิธีซื้อโดเมนพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่า
การได้ชื่อโดเมนดีๆ ในราคาที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณศึกษาตัวเลือกที่เหมาะกับความต้องการของธุรกิจและเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจ
เปรียบเทียบราคาจากหลายผู้ให้บริการ
ราคาของชื่อโดเมนเดียวกันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ ดังนั้นการเช็กราคาและโปรโมชั่นจากหลายแหล่งจะช่วยให้คุณได้ดีลที่ดีที่สุด
ลองมองหาส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษ บางผู้ให้บริการมีส่วนลดลึกสำหรับลูกค้าให
หลีกเลี่ยงโดเมนที่แพงโดยไม่จำเป็น
ไม่จำเป็นต้องซื้อชื่อโดเมนราคาแพงหากไม่ได้มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ ตราบใดที่ชื่อโดเมนของคุณจำง่าย สะกดไม่ยาก และสื่อถึงธุรกิจได้ดี ก็เพียงพอแล้ว
หากชื่อโดเมนพรีเมียมมีความจำเป็นต่อแบรนด์หรือกลยุทธ์การตลาดของคุณ ควรวางแผนงบประมาณให้ครอบคลุม และอย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายบางส่วนอาจนำไปลดหย่อนภาษีธุรกิจได้
ลองมองหานามสกุลโดเมนที่ไม่ใช่ .com
การเลือกใช้ TLD ที่ไม่ใช่ .com อาจช่วยให้คุณได้ชื่อโดเมนที่ต้องการในราคาที่ถูกลง
เช่น .io อาจเหมาะกับบริษัทเทคโนโลยี หรือ .green เหมาะกับธุรกิจที่เน้นด้านสิ่งแวดล้อม โดยทั่วไป TLD ที่พบได้น้อยเหล่านี้มักมีราคาต่ำกว่า .com
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มี TLD ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีตัวเลือกหลากหลายขึ้น เช่น
- .app เหมาะกับนักพัฒนาแอป
- .blog เหมาะกับนักเขียน
- .nyc, .london เป็น TLD เชิงพื้นที่ที่ช่วยให้ธุรกิจเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้
พิจารณาราคาการต่ออายุ
เมื่อจดทะเบียนโดเมน คุณจะเป็นเจ้าของโดเมนนั้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และต้องต่ออายุเมื่อหมดอายุ
บางผู้ให้บริการเสนอส่วนลดสำหรับการจดทะเบียนระยะยาว หากคุณมั่นใจในชื่อโดเมนของตัวเอง การจดทะเบียนหลายปีอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและล็อกชื่อโดเมนไว้ได้นานขึ้น
ลองมองหาการประมูลโดเมน
ตลาดประมูลโดเมนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้คุณซื้อและขายชื่อโดเมนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นแหล่งที่ดีในการหาชื่อโดเมนพิเศษ
อย่างไรก็ตาม การประมูลมักมีการแข่งขันสูงและราคาสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากคุณสนใจซื้อโดเมนจากการประมูล ควรกำหนดงบประมาณและยึดตามแผนที่ตั้งไว้
อีกทางเลือกหนึ่งคือการเจรจาซื้อโดเมนแบบส่วนตัวผ่านบริการนายหน้าของผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมน ซึ่งช่วยดำเนินการแทนคุณได้
เลือกซื้อโดเมนอย่างคุ้มค่า ไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป
การซื้อโดเมนเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ราคาของโดเมนสามารถแตกต่างกันไปได้มาก ดังนั้นการเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อราคาและวิธีหาดีลที่คุ้มค่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
อย่าลืมว่าเมื่อธุรกิจของคุณเพิ่งเริ่มต้น ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อให้ได้ชื่อโดเมนที่สมบูรณ์แบบ ตราบใดที่ชื่อโดเมนของคุณสื่อความหมาย จำง่าย และใช้งานได้ดี ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับราคาชื่อโดเมน
ชื่อโดเมนคืออะไร?
ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) เป็นระบบที่ช่วยแปลงที่อยู่เว็บไซต์ให้อยู่ในรูปแบบข้อความที่เข้าใจง่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้สะดวกขึ้น
สามารถซื้อชื่อโดเมนแบบถาวรได้หรือไม่?
นามสกุลโดเมน (TLD) มีราคาเท่ากันหมดหรือไม่?
สามารถจดชื่อโดเมนได้ฟรีหรือไม่?
จะเช็คได้อย่างไรว่าชื่อโดเมนยังว่างอยู่?
คุณสามารถตรวจสอบว่าชื่อโดเมนที่ต้องการยังว่างอยู่หรือไม่ผ่านเครื่องมือตรวจสอบชื่อโดเมน เช่น เครื่องมือที่ Shopify ให้บริการ